ตลาดโลกยังแข็งแกร่ง แม้เผชิญความเสี่ยงชัตดาวน์สหรัฐฯ นักลงทุนโฟกัสนโยบายเฟดและทิศทางเศรษฐกิจ

ตลาดโลกแข็งแกร่งแม้เผชิญความเสี่ยงชัตดาวน์สหรัฐฯ นักลงทุนจับตานโยบายเฟดและแนวโน้มเศรษฐกิจ
ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มสัปดาห์ด้วยแรงบวก แม้นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อความเป็นไปได้ของการชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นเร็วสุดภายในวันพุธนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแรงดึงระหว่าง “ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค” กับ “ความต้องการผลตอบแทนและแนวทางจากธนาคารกลาง” ที่ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาดโลกในระยะนี้
หากการชัตดาวน์เกิดขึ้นจริง หน่วยงานสำคัญ เช่น กระทรวงแรงงานและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ อาจต้องหยุดเผยแพร่รายงานเศรษฐกิจรายเดือน รวมถึงข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ ภาวะ “ข้อมูลมืด” ดังกล่าวอาจทำให้เฟดขาดข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย และต้องพึ่งพาข้อมูลจากภาคเอกชนแทน ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดในระยะสั้น
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า หากชัตดาวน์เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะอยู่ในระดับจำกัด โดยทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์ของการปิดทำการจะส่งผลให้ GDP สหรัฐฯ หดตัวราว 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์ แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

ความเชื่อมั่นและแรงกระเพื่อมในตลาดโลก

ภาวะชัตดาวน์ยังสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจทั่วโลก ความเชื่อมั่นที่อ่อนลงอาจกระทบต่อการจ้างงานและการลงทุน ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพคล่องและอุปสงค์สินค้าทั่วโลก โดยเฉพาะ ตลาดเกิดใหม่ ที่มีความอ่อนไหวสูงต่อเงินทุนไหลเข้าออก หากนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น (Flight to Safety) อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์ตึงตัวและกระทบต่อพันธบัตรของประเทศกำลังพัฒนา
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อาจผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของความคาดหวังต่ออุปสงค์ ขณะที่ความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบต่างประเทศหรือการบังคับใช้ข้อตกลงทางการค้า อาจยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับระบบเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด

ปฏิสัมพันธ์ทางนโยบายการเงิน

สำหรับธนาคารกลางนอกสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนจากชัตดาวน์อาจกลายเป็น “ปัจจัยแทรก” ที่ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายในประเทศ หลายธนาคารกลางยังคงเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเฟดต้องชะลอการปรับลดดอกเบี้ยจากภาวะขาดข้อมูล อาจทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศแคบลง และลดแรงหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคอื่น
ในทางกลับกัน หากเฟดยังส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบาย อาจกระตุ้นกระแสเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้

การตอบสนองของตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวในทิศทางบวก โดย
– S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้นราว 0.3% และ 0.5%
– Dow Jones เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2%
– MSCI All-World ขยับขึ้น 0.4%
– STOXX 600 ของยุโรปเพิ่มขึ้น 0.2%
ความแข็งแกร่งของตลาดครั้งนี้สอดคล้องกับแนวโน้มในอดีต ซึ่งมักเห็นตลาดปรับฐานเพียงเล็กน้อยในช่วงชัตดาวน์ และสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดข้อตกลงทางการเมือง

ตลาดพันธบัตร ค่าเงิน และทองคำ

พันธบัตรรัฐบาลในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงซื้อ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนลดลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าประมาณ 0.2%
– ยูโรและปอนด์แข็งค่าขึ้นราว 0.3%
– เยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง

ทิศทางอุตสาหกรรมและภูมิภาค

หุ้นในกลุ่ม เทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ นำตลาดขึ้น โดยมีบริษัทเด่นอย่าง Nvidia, Micron, และ Lam Research เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ในทางกลับกัน กลุ่มพลังงาน อ่อนตัวลงจากราคาน้ำมันที่ลดลงและความกังวลต่ออุปสงค์โลก
ตลาดเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสาน โดยจีนปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ญี่ปุ่นอ่อนตัวลง ด้าน TSX Futures ของแคนาดาปรับขึ้น 0.55% จากแรงหนุนของราคาทองคำ

มุมมองเชิงเทคนิคและพื้นฐาน

จากมุมมองทางเทคนิค ดัชนีหลักยังได้รับแรงหนุนจากเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน โดยเฉพาะ S&P 500 ที่ยืนเหนือเส้นดังกล่าวติดต่อกันกว่า 100 วัน ขณะที่ทองคำทะลุแนวต้าน 3,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นชัดเจน
ด้านพื้นฐาน ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการแข็งแกร่งของกลุ่มเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ค่า Forward P/E ของตลาดหุ้นหลายแห่งอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันหากความเชื่อมั่นเริ่มอ่อนตัว

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

  • Bank of America ประเมินว่า การชัตดาวน์แต่ละสัปดาห์อาจฉุด GDP สหรัฐฯ ลง 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่ยืดเยื้อ ผลกระทบระยะยาวจะยังจำกัด
  • UBS มองว่าความเสี่ยงดังกล่าวอาจถูกประเมินสูงเกินจริง นักลงทุนควรโฟกัสที่การลดดอกเบี้ยและผลประกอบการ
  • นักกลยุทธ์ในเอเชียระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีน โดยเฉพาะภาคการผลิต กดดันบรรยากาศลงทุนในภูมิภาค
  • Marc Chandler จาก Bannockburn Forex เตือนว่า
  • “หากรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการ ตลาดจะสูญเสียจุดยึดข้อมูลสำคัญ”

  • นักวิเคราะห์จาก Bloomberg เสริมว่า ตลาดโลกมักมองชัตดาวน์ระยะสั้นเป็นเพียง “อุปสรรคชั่วคราว” หากสามารถหาทางออกได้รวดเร็ว

บทสรุป

ตลาดโลกยังคงทรงตัวอย่างแข็งแกร่งภายใต้ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ แรงหนุนจากพื้นฐานบริษัทที่มั่นคง โมเมนตัมทางเทคนิค และความคาดหวังต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังช่วยพยุงความเชื่อมั่นในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม หากภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง เน้นถือครองสินทรัพย์คุณภาพสูง และติดตามทิศทางของนโยบายการคลังและการเงินอย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

fintapx
Logo
Compare items
  • Total (0)
Compare
0
Shopping cart