เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2025 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งถือเป็นการลดครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2024 การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดคริปโตกลับไม่ได้พุ่งแรงตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ตลาดยังคงขาดแรงขับเคลื่อนและนักลงทุนยังเลือกที่จะรอความชัดเจนมากขึ้น
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
เฟดส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายแบบ “ประชุมต่อประชุม” โดยจับตาเงินเฟ้อและตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด แม้แรงกดดันด้านราคาจะผ่อนคลายลงบางส่วน แต่ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ขณะที่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มอ่อนตัว ปัจจัยเหล่านี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงกดดันสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน เช่น คริปโตเคอร์เรนซี
ความเชื่อมั่นและกระแสเงินทุน
แม้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะเอื้อให้สินทรัพย์เสี่ยงน่าลงทุนมากขึ้น แต่ผลลัพธ์กลับถูกกดทับด้วยเงินเฟ้อที่ยังสูงและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า หลังการประชุมเฟด ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทันที ทำให้ต้นทุนการลงทุนคริปโตสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้แรงซื้อไม่ขยายตัวเต็มที่ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนและยุโรป ซึ่งอาจทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง
การตอบสนองของตลาดคริปโต
บิตคอยน์สามารถปรับขึ้นได้เล็กน้อยราว 1% แตะระดับประมาณ 117,484 ดอลลาร์ในวันที่ 18 กันยายน 2025 ขณะที่อัลท์คอยน์ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด บางเหรียญปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่บางส่วนทรงตัวหรือลดลง ความไม่แน่นอนจากท่าทีของเฟดที่เลือกใช้แนวทาง “ประชุมต่อประชุม” ทำให้นักลงทุนยังคงถือท่าทีระมัดระวัง โดยเฉพาะในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสภาพคล่องต่ำ
ปัจจัยเชื่อมโยงกับตลาดอื่น
ตลาดคริปโตยังเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับผลตอบแทนพันธบัตร ค่าเงิน และตลาดหุ้นโลก
– พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะพันธบัตรระยะกลางถึงยาว
– ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า กดดันเม็ดเงินไหลเข้าสู่คริปโต
– ตลาดหุ้นโลกให้ภาพผสมผสาน ดัชนีบางแห่งทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ความผันผวนยังสูง ขณะที่ตลาดเอเชียยังทรงตัว
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
– บิตคอยน์ พบแรงซื้อใกล้ระดับแนวรับเดิม แม้จะเจอแนวต้านสำคัญที่ระดับจิตวิทยาและจุดสูงสุดเดิม
– อัลท์คอยน์ เผชิญแรงกดดันจากสภาพคล่องต่ำ และอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก หากไม่มีข่าวบวกชัดเจนยังมีแนวโน้มตามหลังบิตคอยน์
– ข้อมูล On-chain บ่งชี้การสะสมเหรียญในบางกลุ่ม โดยเฉพาะสถาบันและกระเป๋าขนาดใหญ่ แต่ยังไม่เห็นแรงซื้อที่กว้างขวาง
– กฎระเบียบและนโยบายภาษี ยังคงสร้างความไม่แน่นอน และเป็นอุปสรรคต่อเงินทุนระยะยาว
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดเป็นเพียงแรงหนุนในระดับหนึ่ง แต่ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นตลาดคริปโตให้ทะยานขึ้นทันที พวกเขาเตือนว่าหากตัวเลขเงินเฟ้อไม่ปรับลงตามคาด การผ่อนคลายทางการเงินอาจไม่มีผลต่อการฟื้นตัวของคริปโตมากนัก
บทสรุป
ตลาดคริปโตยังอยู่ในโหมด “รอดูท่าที” แม้การลดดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นปัจจัยบวก แต่สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญมากกว่าคือ แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค, ข้อมูลเงินเฟ้อ, ตลาดแรงงาน และสัญญาณนโยบายการเงินในอนาคต หากตัวเลขเศรษฐกิจชี้ให้เห็นการอ่อนตัวชัดเจนหรือตัวเลขเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าคาด อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาดคริปโตฟื้นตัวแรงขึ้น แต่หากเศรษฐกิจมีเสถียรภาพโดยไม่เกิดการผ่อนคลายเพิ่มเติม ตลาดคริปโตอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ พร้อมความผันผวนรอบการประกาศข้อมูลสำคัญ
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ช่วงเวลานี้ตอกย้ำความสำคัญของ ความอดทน วินัย และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
