PepsiCo ทะยานแรง! Elliott ทุ่ม 4 พันล้านดอลลาร์ ลุยถือหุ้น พร้อมเดินหน้าแผนฟื้นฟูกลยุทธ์ครั้งใหญ่

ตลาดการเงินสหรัฐฯ ร้อนแรงอีกครั้งเมื่อหุ้น PepsiCo (PEP) ปรับตัวขึ้นระหว่าง 2%–5% หลังจาก Elliott Investment Management นักลงทุนเชิงรุก (Activist Investor) เปิดเผยการเข้าถือหุ้นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2% ของบริษัท พร้อมทั้งนำเสนอแผนฟื้นฟู (Turnaround Plan) ที่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ
การดีดตัวของหุ้น PepsiCo กลายเป็นแรงหนุนสำคัญให้กับหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Staples) ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนกำลังมองหาตัวเร่งปัจจัยบวก (Catalyst) ที่ชัดเจนและผู้นำที่มั่นใจ
นอกจากนี้ยังสะท้อนบทบาทที่มากขึ้นของการเคลื่อนไหวเชิงรุกของผู้ถือหุ้น (Shareholder Activism) ที่ไม่ได้รอให้ฝ่ายบริหารปรับเปลี่ยนในระยะยาว แต่เข้ามาเร่งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทันที
ผลสะเทือนในอุตสาหกรรม
แรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และพอร์ตสินค้าที่ซับซ้อน ทำให้บริษัทอาหารและเครื่องดื่มต้องเผชิญความท้าทายมากขึ้น Elliott มองว่าการปรับพอร์ตของ PepsiCo โดยโฟกัสที่แบรนด์หลักที่ทำกำไรสูง และการรีแฟรนไชส์ธุรกิจบรรจุขวด (PBNA) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปิดช่องว่างด้านความสามารถในการแข่งขันกับ Coca-Cola
ตัวอย่างชัดเจนคือ Kellogg’s ที่เพิ่งแยกธุรกิจซีเรียลออกจากขนมขบเคี้ยว และ Coca-Cola ที่ใช้โมเดล Asset-Light จนประสบความสำเร็จ หาก PepsiCo ทำได้สำเร็จเช่นกัน อาจกลายเป็นกรณีทดสอบสำคัญ (Test Case) ที่ผลักดันให้ทั้งอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต้องปรับตัวตาม
ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
การประกาศของ Elliott ดึงดูดความสนใจจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันทันที โดยพบการซื้อขาย Call Options
ของนักลงทุนรายย่อยพุ่งสูงขึ้น สะท้อนแรงเก็งกำไรและความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าความเชื่อมั่นยังคงอยู่ในระดับ “ระมัดระวังอย่างมีความหวัง” แม้ราคาหุ้นอาจพุ่งต่อ
แต่หากฝ่ายบริหาร PepsiCo ไม่ตอบรับข้อเสนอของ Elliott ราคาก็มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานกลับได้
การตอบสนองของตลาด
หุ้น PepsiCo ติดอันดับ Top Gainers ของ S&P 500 และ Nasdaq ขณะที่ปริมาณการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 วัน
เกือบสองเท่า มี Block Trade จากนักลงทุนสถาบัน และตลาดอนุพันธ์มีความเคลื่อนไหวรุนแรง ค่า Option Premiums
ปรับขึ้นชัดเจนแม้โมเมนตัมเชิงเทคนิคชี้ว่าหุ้นกำลังเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นใหม่ แต่ความยั่งยืนยังขึ้นอยู่กับการสื่อสารจากฝ่ายบริหารและผลประกอบการในไตรมาสถัดไป
มุมมองจากตลาดตราสารหนี้
พันธบัตรของ PepsiCo เผชิญแรงขายเพิ่มขึ้น ขณะที่ Credit Spread ขยายตัว สะท้อนความกังวลของผู้ถือพันธบัตรว่า Elliott อาจผลักดันให้บริษัทใช้กลยุทธ์ซื้อหุ้นคืนด้วยหนี้สิน (Debt-Funded Buybacks) หรือการปรับโครงสร้างทุน
ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงทางเครดิต หากไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้ บริษัทอาจเผชิญต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
มุมมองการประเมินมูลค่า
Elliott ประเมินว่าหุ้น PepsiCo มีโอกาสปรับขึ้นกว่า 50% หากดำเนินแผนสำเร็จ ปัจจุบัน Forward P/E ของ PepsiCo ยังคงต่ำกว่า Coca-Cola มายาวนาน หากสามารถปิดช่องว่างนี้ได้ อาจสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นระยะยาวในระดับที่ทัดเทียมกับคู่แข่งชั้นนำ
อย่างไรก็ตาม Upside ดังกล่าวยังขึ้นอยู่กับความสามารถในการดำเนินกลยุทธ์ (Execution) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
แผนยุทธศาสตร์จาก Elliott
Elliott เสนอ 5 เสาหลักในการพลิกฟื้น PepsiCo ได้แก่
ทบทวนโครงสร้าง PBNA
ปรับพอร์ตโฟลิโอ PFNA
ลงทุนในธุรกิจที่สร้างการเติบโต
กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
ยกระดับธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบ
การเปรียบเทียบกับ Coca-Cola
Coca-Cola ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการ Refranchising ปี 2017 ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรและมูลค่าตลาด หาก PepsiCo
สามารถเดินตามโมเดล Asset-Light ได้สำเร็จ ก็อาจลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพและท้าทายความเป็นผู้นำของ Coca-Cola ได้
มุมมองนักวิเคราะห์
Piper Sandler มองว่า PepsiCo อาจขายสินทรัพย์ไซรัปและมิกซ์เพื่อสร้างรายได้แบบ Asset-Light ขณะที่ Zacks มองว่าการแยกธุรกิจบรรจุขวดอาจเป็นกลไกสำคัญ แม้ต้องใช้เงินลงทุนสูง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ย้ำว่า การดำเนินกลยุทธ์อย่างมีวินัยคือหัวใจสำคัญ นอกจากนี้ราคาเป้าหมายของหลายโบรกเกอร์ถูกปรับขึ้นแล้ว ซึ่งสะท้อนว่า Activist Premium ถูกสะท้อนเข้าไปในมูลค่าแล้ว
ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ
Elliott ระบุว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือ “โอกาสครั้งประวัติศาสตร์” ด้าน PepsiCo แสดงท่าทีเปิดรับ โดยยืนยันว่ากำลังมีการหารืออย่างสร้างสรรค์ Reuters รายงานว่าการถือหุ้น 2% ทำให้ Elliott กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายย้ำว่า ประวัติของ Elliott ใน AT&T, Twitter และ SAP แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการกดดัน หากฝ่ายบริหารไม่ตอบสนอง
สิ่งที่ต้องติดตามต่อไป
นักลงทุนควรจับตาท่าทีของคณะกรรมการ PepsiCo การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง และผลประกอบการรายไตรมาส หากข้อเสนอของ Elliott ถูกนำไปปฏิบัติจริง ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนโฉม PepsiCo เท่านั้น แต่ยังอาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับทั้งอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม