วัฏจักรตลาด (Market Cycle) คืออะไร?
เข้าใจจังหวะเศรษฐกิจ รู้ทันการลงทุนในแต่ละช่วงของตลาด นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว มักมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ “ความเข้าใจในวัฏจักรตลาด” หรือ Market Cycle เพราะตลาดการเงินไม่ได้เคลื่อนไหวในเส้นตรง แต่เป็นวงจรที่มีขึ้นและลง สลับกันไปตามปัจจัยเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค และอารมณ์ของนักลงทุน
Market Cycle คืออะไร?
วัฏจักรตลาด (Market Cycle) คือ ลำดับของช่วงเวลาทางเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ และคริปโต ในแต่ละช่วงของวัฏจักร ตลาดจะมีลักษณะเฉพาะ ทั้งในแง่พฤติกรรมราคา อารมณ์นักลงทุน และโอกาสในการลงทุน วัฏจักรนี้เกิดซ้ำๆ เป็นธรรมชาติของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และมีความสำคัญมากในการวางกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละช่วง
วัฏจักรตลาดแบ่งออกเป็น 4 ช่วงหลัก
1. ช่วงสะสม (Accumulation Phase)
– เกิดหลังจากตลาดหมีหรือวิกฤตจบลง
– ราคายังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แต่นักลงทุนระยะยาวเริ่มสะสมสินทรัพย์
– ปริมาณการซื้อขายยังต่ำ แต่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ
– เป็นโอกาสทองสำหรับการซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาถูก
2. ช่วงขาขึ้น (Markup - Bull Market Phase)
– ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา
– ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นต่อเนื่อง มีแรงซื้อจากรายย่อยและรายใหญ่
– ข่าวเศรษฐกิจเป็นบวก รายได้บริษัทเติบโต
– เป็นช่วงที่ “ตลาดกระทิง” เด่นชัด เหมาะกับกลยุทธ์ Buy & Hold
3. ช่วงกระจายตัว (Distribution Phase)
– นักลงทุนมืออาชีพเริ่มขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นมานาน
– ราคาผันผวนสูง เกิดการสลับขึ้นลงแบบไม่มีทิศทางชัด
– เริ่มมีข่าวดีเกินจริง , การเก็งกำไรร้อนแรง
– เป็นช่วงที่ต้องระวังการ “ติดดอย” เพราะตลาดเริ่มอิ่มตัว
4. ช่วงขาลง (Decline - Bear Market Phase)
– ราคาตกลงแรงจากแรงขายสะสม
– ความเชื่อมั่นลดลง นักลงทุนตื่นตระหนก
– ข่าวลบด้านเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง
– ตลาดเข้าสู่ภาวะ “ตลาดหมี” ควรเน้นการป้องกันพอร์ต และถือเงินสด
การลงทุนตามวัฏจักรตลาด
การเข้าใจ Market Cycle จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม เช่น
– สะสมหุ้นพื้นฐานในช่วง สะสม
– เพิ่มน้ำหนักลงทุนในช่วง ขาขึ้น
– เริ่มขายบางส่วนในช่วง กระจายตัว
– ปรับพอร์ตลดความเสี่ยงในช่วง ขาลง
การลงทุนตามวัฏจักรไม่ใช่การ “ทำนายจุดสูงสุดหรือต่ำสุด” แต่คือการ “จัดพอร์ตให้สอดคล้องกับจังหวะของตลาด”
สรุป
วัฏจักรตลาด คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ เมื่อเข้าใจว่าแต่ละช่วงของตลาดมีโอกาสและความเสี่ยงอย่างไร คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ และพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง
