High-Frequency Trading (HFT) คืออะไร? เจาะลึกกลยุทธ์การเทรดความเร็วสูงในตลาดการเงิน

High-Frequency Trading (HFT) หรือ การเทรดความถี่สูง คือรูปแบบการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใช้ อัลกอริทึมและคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ในการส่งคำสั่งซื้อขายจำนวนมากภายในเสี้ยววินาที โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาสั้นมาก กลยุทธ์ HFT ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงินขนาดใหญ่ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ตลาดฟิวเจอร์ส, ตลาด Forex และคริปโต เนื่องจากสามารถสร้างกำไรจากความต่างของราคาเพียงเล็กน้อย แต่ทำบ่อยครั้งในปริมาณมาก

คุณสมบัติสำคัญของ High-Frequency Trading

1. ความเร็วสูงมาก (Ultra-Low Latency)
ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยลดเวลาหน่วง (Latency) ให้เหลือเพียงไม่กี่ไมโครวินาที เพื่อให้คำสั่งซื้อขายทำงานได้เร็วกว่าคู่แข่ง
2. ปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก (High Order Volume)
ส่งคำสั่งซื้อขายและยกเลิกคำสั่งนับล้านครั้งต่อวัน เพื่อหาจังหวะทำกำไร
3. ถือครองสินทรัพย์ระยะสั้นมาก
ส่วนใหญ่จะถือสถานะเพียงไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที
4. ใช้กลยุทธ์อัตโนมัติ (Algorithmic Strategies)
อัลกอริทึมจะตัดสินใจซื้อ–ขายตามสัญญาณทางเทคนิคหรือเงื่อนไขที่ตั้งไว้ล่วงหน้า

กลยุทธ์ที่ใช้ใน HFT

Market Making – ส่งคำสั่งซื้อและขายพร้อมกันเพื่อกินส่วนต่างของ Bid–Ask Spread
Arbitrage Trading – เก็งกำไรจากส่วนต่างราคาในตลาดหรือสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกัน
News-Based Trading – ใช้ระบบประมวลผลข่าวความเร็วสูงเพื่อส่งคำสั่งก่อนที่ตลาดจะปรับตัว
Statistical Arbitrage – ใช้สถิติและโมเดลคณิตศาสตร์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์และทำกำไร

ข้อดีของ High-Frequency Trading

– เพิ่มสภาพคล่องในตลาด (Liquidity)
– ช่วยลดส่วนต่างราคาระหว่าง Bid–Ask
– ทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียและข้อถกเถียง

– อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด (Flash Crash)
– สร้างความได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรมสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่า
– อาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาขาดเสถียรภาพในบางช่วงเวลา

HFT ในตลาดปัจจุบัน

ในปัจจุบัน HFT ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ธนาคารเพื่อการลงทุน และบริษัทเทรด proprietary trading ที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขั้นสูง แม้จะมีข้อโต้แย้งด้านความเป็นธรรม แต่ HFT ก็ยังเป็นกลไกสำคัญในระบบการซื้อขายสมัยใหม่

Fintapx

Recent Posts

Foreign Exchange Risk

ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคืออะไร และจะจัดการได้อย่างไร? ความหมายของความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Foreign Exchange Risk / Currency Risk หมายถึง ความเสี่ยงที่มูลค่าของการลงทุน, รายได้, หรือภาระหนี้สิน จะเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากความผันผวนของ…

10 hours ago

Market Risk คืออะไร?

Market Risk คืออะไร? ความเสี่ยงทางการตลาดที่นักลงทุนต้องรู้ Market Risk หรือ ความเสี่ยงทางการตลาด หมายถึง ความเสี่ยงที่มูลค่าของการลงทุนจะลดลงเนื่องจากความผันผวนของ ราคาตลาดโดยรวม ซึ่งเกิดจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของนักลงทุนหรือบริษัท เช่น ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย,…

10 hours ago

Bitcoin ดิ่ง 112K ปิดสัปดาห์ในแดนลบ เจอแรงขายทำกำไร-วิตกนโยบายภาษีสหรัฐฯ

ราคา Bitcoin วันนี้: ร่วงแตะ 112K เจอแรงขายทำกำไร-วิตกภาษีและดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงในวันศุกร์ (2 ส.ค.) ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยการร่วงลง  แตะระดับ $112,722 ท่ามกลางแรงขายทำกำไร และความกังวลต่อมาตรการภาษีการค้าของสหรัฐฯ…

11 hours ago

Open Interest คืออะไร?

Open Interest คืออะไร? คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ Open Interest หรือ OI คือ หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของตลาด ฟิวเจอร์ส (Futures) และ ออปชัน (Options)…

11 hours ago

M&A ไม่ใช่แค่ซื้อกิจการ แต่นี่คือการกำหนดอนาคตองค์กร

การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A): มันคืออะไร? M&A หรือ Mergers and Acquisitions คือกระบวนการทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวหรือการซื้อขายกิจการระหว่างบริษัทสองแห่งขึ้นไป ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการขยายกิจการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หรือเข้าถึงตลาดใหม่ในระดับองค์กร คำจำกัดความของ M&A 1.…

2 days ago

“Wyckoff” ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่คือภาษาของตลาดที่คุณต้องเข้าใจ

ทำความเข้าใจกลยุทธ์ Wyckoff ในการเทรด กลยุทธ์วิเคราะห์พฤติกรรมราคาที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของตลาด กลยุทธ์ Wyckoff (Wyckoff Method) เป็นแนวคิดการวิเคราะห์ตลาดที่พัฒนาขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Richard D. Wyckoff นักวิเคราะห์ทางเทคนิคและผู้ก่อตั้งนิตยสาร…

2 days ago