ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ท่ามกลางภาวะตลาดโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ล่าสุดบริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง Capital Economics คาดการณ์ว่า AUD มีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อเนื่องตลอดครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจจีน ความผันผวนในตลาดโลก และนโยบายการเงินของประเทศต่าง ๆ
รายงานจาก Capital Economics ชี้ว่า แม้ ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) จะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2025 จากแรงหนุนของตลาดหุ้นโลกที่เริ่มกลับมาคึกคัก แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทั้ง AUD และ NZD ได้จบลงแล้ว” บริษัทคาดว่า สองสกุลเงินนี้จะยังคงเผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะถัดไป โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่า และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
1. ความไม่แน่นอนทางการค้าโลก: ในช่วงปลายปี 2024 จนถึงต้นปี 2025 ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะระหว่างจีนและประเทศพันธมิตรตะวันตก ส่งผลให้สกุลเงินแถบแอนติโพเดียน (Antipodean currencies) อย่าง AUD และ NZD ถูกกดดันอย่างหนัก
2. เศรษฐกิจจีนชะลอตัว: จีน เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เทคโนโลยี สร้างแรงกระเพื่อมต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และส่งผลทางอ้อมต่อค่าเงินออสเตรเลีย
3. ส่วนต่างของผลตอบแทน (Yield Differentials): เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ แล้ว อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียถือว่าต่ำกว่า ทำให้สกุลเงิน AUD มีความน่าสนใจน้อยลงในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ
Capital Economics ประเมินว่า ค่าเงิน AUD และ NZD จะได้รับผลกระทบจากความรู้สึกเสี่ยง (risk sentiment) ของตลาดโลกโดยตรง แม้ในช่วงเดือนเมษายน ความเชื่อมั่นในตลาดจะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะหนุนให้ค่าเงินทั้งสองกลับมาแข็งค่าอย่างยั่งยืน แนวโน้มค่าเงิน AUD ยังขึ้นอยู่กับ:
– ท่าทีของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ว่าจะปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ย
– ความสามารถของเศรษฐกิจจีนในการฟื้นตัว
– การส่งออกสินค้าหลัก เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ
สำหรับนักลงทุนที่ถือครองหรือกำลังพิจารณาการลงทุนในสกุลเงิน AUD หรือสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
– จับตานโยบายการเงินของ RBA และ Fed อย่างใกล้ชิด
– ติดตามเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์และการผลิต
– ประเมินความเสี่ยงจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ
– ใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง (hedging) หากมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
แหล่งที่มา:
1. Capital Economics (2025). Market Analysis & Currency Forecasts. www.capitaleconomics.com
2. Reuters. (2025). “Australian Dollar Slips Amid China Woes and Global Trade Tensions.”
3. Bloomberg Markets. (2025). “AUD Outlook Hinges on China Recovery, RBA Policy Signals.”
ในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม 2025 ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 100% และจีนตอบโต้ด้วยการเพิ่มค่าธรรมเนียมท่าเรือ ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกเข้าสู่ภาวะผันผวนทันที นักลงทุนเร่งโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและหันกลับมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตรรัฐบาลราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ราคาทองคำในตลาดสปอตพุ่งแตะระดับ 4,078.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์…
ดอลลาร์สหรัฐกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2025 โดยแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดของปี จากแรงหนุนของกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ข้อมูลจาก Bank of America ชี้ว่าความต้องการลงทุนในดอลลาร์อยู่ในระดับสูงสุดของปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งปัจจัยหลักที่หนุนดอลลาร์แข็งค่านโยบายการเงินที่แตกต่างกันทั่วโลก – ขณะที่หลายประเทศเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐยังคงคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแรง ส่งผลให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์สกุลดอลลาร์โดดเด่นกว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ยืดหยุ่น…
ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บ ภาษีนำเข้าจากจีน 100% สำหรับสินค้าประเภทเทคโนโลยี พร้อมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายรุนแรงในตลาดคริปโต โดย บิตคอยน์ (Bitcoin) ร่วงกว่า 8.4% แตะระดับ…
ในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ สายตานักลงทุนทั่วโลกจะจับจ้องไปที่สองเหตุการณ์สำคัญ — รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claim) และสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ (Powell Speech) ซึ่งอาจเป็นจุดชี้ชะตาทิศทางของตลาดการเงิน…
ราคาทองคำ (Gold Price) ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2025 ตามรายงานจาก Reuters ผ่าน Investing.com…
เมื่อเวลา 00:01 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เข้าสู่ภาวะ ปิดทำการชั่วคราว (Government Shutdown) อย่างเป็นทางการ หลังจากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่หรือร่างขยายงบชั่วคราวได้สำเร็จการขาดฉันทามติระหว่างสองพรรค โดยเฉพาะในประเด็นงบประมาณด้านสาธารณสุขและค่าใช้จ่ายภาครัฐส่วนเลือกสรร…