ข่าว

BoE ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก – ตัวเลขเศรษฐกิจจะเปิดทางให้ลดดอกเบี้ยหรือยัง?

ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England: BOE) กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินรอบใหม่ ในขณะที่ตลาดการเงินและนักลงทุนทั่วโลกจับตาว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ค่าจ้าง และภาวะตลาดแรงงาน จะสนับสนุนให้ BOE เดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนพฤศจิกายนหรือไม่ ตามรายงานของ ING สถาบันการเงินชั้นนำ คาดการณ์ว่า BOE อาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดเบสิสพอยต์ (0.25%) แม้จะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่ควร

เงินเฟ้ออังกฤษยังเป็นโจทย์ใหญ่
แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าพลังงานที่ปรับตัวลงจะช่วยบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อ แต่ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ของสหราชอาณาจักรอาจแตะระดับ 4% ในเดือนกันยายน ขณะที่ เงินเฟ้ออาหาร (Food Inflation) ยังคงสูงกว่า 5% ซึ่งเป็นปัจจัยที่ธนาคารแห่งอังกฤษกังวล เนื่องจากราคาสินค้าอาหารเป็นสิ่งที่ผู้บริโภครับรู้ได้โดยตรง และสามารถส่งผลกระทบต่อ ความคาดหวังเงินเฟ้อ (Inflation Expectation) ของครัวเรือนและแรงงานได้อย่างชัดเจน หากผู้บริโภคเชื่อว่าค่าครองชีพจะสูงต่อเนื่อง ก็อาจนำไปสู่แรงกดดันในการปรับขึ้นค่าจ้าง ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว

ภาคบริการและตลาดเช่าที่อยู่อาศัยชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกองค์ประกอบของเงินเฟ้อที่ยังร้อนแรง ข้อมูลจาก BOE ชี้ว่า เงินเฟ้อในภาคบริการ (Services Inflation) ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านเช่า ที่พัก การเดินทาง และการบริการอื่น ๆ มีแนวโน้มต่ำกว่าคาดการณ์ของธนาคารที่ระดับ 5% การเติบโตของค่าเช่าที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในภาคสังคม (Social Housing) เริ่มชะลอตัวจากการที่รัฐบาลกำหนดเพดานการปรับขึ้นค่าเช่าให้อยู่ในระดับต่ำลง ประกอบกับตลาดเช่าเอกชนที่มีสมดุลดีขึ้น ทั้งนี้เป็นสัญญาณบวกต่อการลดแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะกลาง

ตลาดแรงงาน: อ่อนแอแต่ยังไม่ชัดเจน
ตลาดแรงงานอังกฤษกำลังส่งสัญญาณที่หลากหลาย ตัวเลขการจ้างงานที่วัดจากการจ่ายเงินเดือนแสดงการลดลงใน 8 จาก 9 เดือนที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงการชะลอตัวที่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การสำรวจตลาดแรงงานบางส่วนกลับสะท้อนการปรับตัวที่ดีขึ้นในบางตัวชี้วัด เช่น การจ้างงานใหม่ที่มีสัญญาณบวกเล็กน้อย ความแตกต่างระหว่างข้อมูลเชิงสำรวจและข้อมูลเชิงปริมาณทำให้การประเมินตลาดแรงงานเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ที่สำคัญคือ การเติบโตของค่าจ้าง (Wage Growth) ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 5% แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเหลือราว 3.5% ภายในสิ้นปี หากเป็นจริง การลดลงของค่าจ้างจะเป็นสัญญาณสำคัญที่สนับสนุนให้ BOE มีพื้นที่ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

งบประมาณฤดูใบไม้ร่วงและข้อจำกัดทางการคลัง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือ งบประมาณฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Budget) ของรัฐบาลอังกฤษ ในปีที่ผ่านมา งบประมาณมีลักษณะขยายตัว ส่งเสริมการใช้จ่ายของรัฐ แต่สำหรับปีนี้ กระทรวงการคลังกลับต้องเผชิญข้อจำกัดทางการเงินอย่างหนัก โดยมีการคาดการณ์การขาดดุลสูงถึง 20,000 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับประมาณการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจบังคับให้รัฐบาลต้องพิจารณา เพิ่มภาษี แม้ก่อนหน้านี้จะให้คำมั่นว่าจะไม่ปรับขึ้นภาษีเงินได้ ภาษีประกันสังคม หรือ VAT ก็ตาม นโยบายการคลังที่เข้มงวดขึ้นจะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม และอาจเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ทำให้ BOE ต้องพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาผลกระทบ

แนวโน้มค่าเงินปอนด์และตลาดเงิน
สำหรับค่าเงินปอนด์ การลดอัตราดอกเบี้ยโดย BOE มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อ GBP โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับนโยบายของธนาคารกลางอื่น ๆ อย่าง Fed หรือ ECB ตามการคาดการณ์ของ ING ค่าเงิน GBP/USD มีโอกาสซื้อขายในกรอบ 1.33-1.38 ภายในสิ้นปีนี้ โดยช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนถือเป็นช่วงที่เงินปอนด์เปราะบางที่สุด ความผันผวนของค่าเงินอาจสะท้อนทั้งปัจจัยในประเทศและปัจจัยภายนอก

มุมมองของ ING และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสุดท้าย
ING คาดว่า ธนาคารแห่งอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 3.25% ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีการลดอีกหนึ่งครั้งในปีนี้และอาจลดต่ออีกสองครั้งในปี 2026 แนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการลดดอกเบี้ยไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงกดดันชั่วคราว แต่สะท้อนความตั้งใจของ BOE ที่จะนำเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะสมดุลในระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งด้านเงินเฟ้อ ค่าแรง และนโยบายการคลัง

สรุป
ธนาคารแห่งอังกฤษอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย กับความเสี่ยงด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง แม้เงินเฟ้อด้านอาหารยังเป็นปัญหาที่เด่นชัด แต่การชะลอตัวของค่าจ้างและเงินเฟ้อในภาคบริการอาจเปิดทางให้ BOE เดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายนได้ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร แต่ยังจะส่งผลต่อค่าเงินปอนด์ ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนทั่วโลก

Fintapx

Recent Posts

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อยีลด์พุ่ง และสภาพคล่องโลกตึงตัว

 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อยีลด์พุ่ง และสภาพคล่องโลกตึงตัวภาพรวมสถานการณ์ตลาดดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ ตลาดฟอเร็กซ์, ตลาดตราสารหนี้, ทองคำ, น้ำมัน และ ตลาดหุ้นโลก ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ขยับทะลุแนวต้านสำคัญ แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่หันกลับมาถือครองสินทรัพย์สหรัฐ…

16 hours ago

สภาพแวดล้อมทางการเงินของเฟดบ่งชี้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น: นัยต่อการเคลื่อนไหวของตลาดวันนี้

เฟดส่งสัญญาณความกดดันทางการเงินสูง กระทบการเคลื่อนไหวตลาดวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงิน หลังออกมายอมรับว่าสภาพแวดล้อมทางการเงินและระบบธนาคารในปัจจุบัน มีความเสี่ยงสูงกว่าก่อนวิกฤติการเงินโลกปี 2007 การประเมินครั้งนี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์เชิงลึกที่เฟดจัดทำขึ้น โดยใช้เกณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า Economic Capital ซึ่งสะท้อนว่ามาตรการปฏิรูปหลังวิกฤติการเงินโลก (Post-GFC Reforms)…

2 days ago

โปรโมชั่นฝาก+เทรด รับ Gift Voucher โบรกเกอร์ Hantec Markets

โปรโมชั่นฝาก+เทรด รับ Gift Voucher 1. ฝาก $10,000 + เทรด 5 ล็อต ---> รับวอเชอร์ 5,000 บาท2.…

2 days ago

โปรโมชั่นฝากปุ๊บ รับปั๊บ โบรกเกอร์ Hantec Markets

โปรโมชั่นฝากปุ๊บ รับปั๊บ!  เพียงแค่ฝากเงินเข้าบัญชีเทรด รับของขวัญสุดพิเศษไปเลย!1. ฝาก $3,000 - รับสมุดหนัง + ร่มพับ + Gift Set + กระเป๋าเล็ก…

2 days ago

ตลาดคริปโตยังคงระมัดระวัง แม้เฟดปรับลดดอกเบี้ย

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2025 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งถือเป็นการลดครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2024 การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดคริปโตกลับไม่ได้พุ่งแรงตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ตลาดยังคงขาดแรงขับเคลื่อนและนักลงทุนยังเลือกที่จะรอความชัดเจนมากขึ้นผลกระทบทางเศรษฐกิจเฟดส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายแบบ “ประชุมต่อประชุม”…

1 week ago

น้ำมันพุ่ง! รับแรงหนุนจากรัสเซียจำกัดอุปทาน + จับตาการประชุมเฟด

ราคาน้ำมันวันนี้ปรับตัวขึ้น จากอุปทานรัสเซียและการประชุมเฟด ราคาน้ำมันวันนี้ ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงเอเชียวันจันทร์ ต่อเนื่องจากการปรับขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของ อุปทานน้ำมันรัสเซีย หลังจากโดรนยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของมอสโกจับตาประชุมเฟดสัปดาห์นี้จุดสนใจสำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย การประชุมเฟดเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ ความต้องการเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว-…

2 weeks ago