ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อยีลด์พุ่ง และสภาพคล่องโลกตึงตัว

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อยีลด์พุ่ง และสภาพคล่องโลกตึงตัว

ภาพรวมสถานการณ์ตลาด

ดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ ตลาดฟอเร็กซ์, ตลาดตราสารหนี้, ทองคำ, น้ำมัน และ ตลาดหุ้นโลก ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ขยับทะลุแนวต้านสำคัญ แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่หันกลับมาถือครองสินทรัพย์สหรัฐ ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความกังวลเชิงลึกต่อเสถียรภาพทางการเงินโลก

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ยีลด์สูง ดอลลาร์ยิ่งแข็ง: การพุ่งขึ้นของยีลด์พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่สหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ IMF เตือนว่า ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีหนี้สกุลดอลลาร์จะเผชิญต้นทุนชำระหนี้ที่สูงขึ้น และเสี่ยงต่อการไหลออกของเงินทุน

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และแรงกดดันเงินเฟ้อ

น้ำมันและทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์ มีราคาสูงขึ้นทันทีสำหรับประเทศที่ไม่ใช้ดอลลาร์โดยตรง ส่งผลให้ความต้องการลดลง และเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อให้กับประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า

การเคลื่อนไหวของตลาดโลก

ตลาดหุ้น: หุ้นสหรัฐได้รับแรงกดดัน โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้จากต่างประเทศ ขณะที่หุ้นเอเชียและยุโรปเผชิญผลกระทบรุนแรงกว่า ญี่ปุ่นและเยอรมนีซึ่งพึ่งพาการส่งออกเสียความสามารถในการแข่งขัน ค่าเงินเยนและวอนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน

ตลาดพันธบัตร

ตลาดพันธบัตรอยู่ในภาวะ “ปรับสมดุล” ยีลด์สูงและดอลลาร์แข็งกดดันสินเชื่อเสี่ยงสูง แต่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกลับได้รับแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาดรองลดลง และสเปรดตราสารหนี้เสี่ยงสูงเริ่มกว้างขึ้น สะท้อนถึงบรรยากาศลงทุนที่ระมัดระวังมากขึ้น

ตลาดเงินตรา

ยูโรอ่อนค่าลงใกล้ระดับเสี่ยงต่อการแตะเสมอ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินเยนสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น ดัชนีดอลลาร์ (DXY) พุ่งทะลุแนวต้านสำคัญ และอาจแข็งค่าต่อหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด

มุมมองทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน

มุมมองทางเทคนิคต่อ DXY: ดัชนีดอลลาร์สหรัฐทะลุแนวต้าน 106 และมีโอกาสขึ้นต่อสู่ระดับ 108–110 RSI แม้สูงแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ต่างสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น

ปัจจัยพื้นฐานที่หนุนดอลลาร์แข็งค่า

  • ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน: พันธบัตรสหรัฐให้ยีลด์สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว

  • ภาวะสภาพคล่องตึงตัว: ความต้องการเงินดอลลาร์ยังสูงในตลาดโลก

  • บรรยากาศการลงทุน: นักลงทุนเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอน

  • ความแตกต่างด้านนโยบายการเงิน: เฟดแม้ระมัดระวัง แต่ธนาคารกลางอื่นยังถูกจำกัดด้วยการเติบโตที่อ่อนแอ

ความเห็นจากนักวิเคราะห์

  • Goldman Sachs: ดอลลาร์อาจแข็งค่าต่อไป แม้เข้าสู่รอบผ่อนคลายนโยบาย เพราะความต้องการสินทรัพย์สหรัฐยังมีอยู่

  • Morgan Stanley: ดอลลาร์แข็งคือแรงกดดันต่อความต้องการเสี่ยงทั่วโลก และตอกย้ำความตึงตัวของตลาดเงิน

  • Investopedia: แนวโน้มดอลลาร์ขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเงินเฟ้อพื้นฐาน PCE

นักการเมืองและผู้กำหนดนโยบายเองยังมีความเห็นต่าง บางฝ่ายมองว่าดอลลาร์แข็งช่วยกดเงินเฟ้อนำเข้า ขณะที่บางฝ่ายกังวลต่อแรงกระเพื่อมในตลาดสินเชื่อโลก

บทสรุป

การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐไม่ได้เกิดจากยีลด์หรือท่าทีเฟดเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงแรงกดดันด้านสภาพคล่องโลกและการปรับตัวของนักลงทุน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ ตลาดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, ตลาดเกิดใหม่ และ ต้นทุนการเงินโลก ในระยะถัดไป ทิศทางดอลลาร์จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อ สัญญาณจากเฟด และบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก แต่สิ่งที่แน่นอนคือ เมื่อสภาพคล่องยังตึงตัวและความไม่แน่นอนยังอยู่ ดอลลาร์ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดการเงินโลก

 

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

fintapx
Logo
Compare items
  • Total (0)
Compare
0
Shopping cart