Apple หุ้นร่วง -1.7% หลังเปิดตัว iPhone 17 และ iPhone Air: นวัตกรรมไม่หวือหวา ตลาดผิดหวัง?
เมื่อคืนที่ผ่านมา Apple ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ประจำปี ซึ่งครั้งนี้รวมถึง AirPods Pro 3, Apple Watch Series 11, และสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ iPhone 17, iPhone 17 Pro และ iPhone Air ที่นับเป็นไฮไลต์หลักของงาน แม้จะเปิดตัวสินค้าหลายรุ่นพร้อมกัน แต่ราคาหุ้น Apple (AAPL) กลับปิดร่วงลง –1.7% ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ สะท้อนความผิดหวังของนักลงทุนที่คาดหวัง “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” มากกว่าการอัปเกรดทีละขั้น
ราคาเปิดตัวในไทย
Apple ได้ประกาศราคาขายในประเทศไทยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
iPhone 17 Pro เริ่มต้นที่ 43,900 บาท
iPhone Air เริ่มต้นที่ 39,900 บาท
iPhone 17 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
ทำไมหุ้นถึงร่วงหลังงานเปิดตัว?
1. ความคาดหวังสูงเกินจริง
นักลงทุนจำนวนมากคาดหวังว่า iPhone รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับนวัตกรรมด้าน AI หรือฟีเจอร์ที่ปฏิวัติวงการ แต่สิ่งที่ Apple นำเสนอคือการปรับปรุงด้านกล้อง หน้าจอ และดีไซน์บางส่วน ซึ่งไม่ต่างจากการอัปเกรด “แบบค่อยเป็นค่อยไป”
2. แรงกดดันด้านราคาและกำไร
มีรายงานว่า Apple ต้องแบกรับต้นทุนจากภาษีและซัพพลายเชน แต่ยังเลือกตั้งราคาที่แข่งขันได้เพื่อรักษากำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งอาจทำให้ อัตรากำไร (margin) ลดลงในระยะสั้น
3. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในเอเชีย ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากกว่าการอัปเกรดทุกปี
มุมมองจากนักวิเคราะห์
– ระยะสั้น: หุ้น Apple อาจเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดตัวครั้งนี้
– ระยะกลาง–ยาว: Ecosystem ของ Apple ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งบริการ, อุปกรณ์เสริม, และฐานผู้ใช้งานที่เหนียวแน่น จึงยังคงเป็นหุ้นที่น่าจับตาสำหรับนักลงทุนที่เชื่อมั่นในกลยุทธ์ระยะยาว
นักวิเคราะห์บางรายยังคงปรับราคาเป้าหมายขึ้น เนื่องจากการเปิดตัวรุ่นใหม่จะช่วยหนุนยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างจีนและสหรัฐฯ
บทสรุป
แม้การเปิดตัว iPhone 17, iPhone 17 Pro และ iPhone Air จะช่วยเสริมไลน์อัปผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ในสายตานักลงทุน ความคาดหวังสูงเกินจริง ทำให้หุ้นร่วงลงทันทีหลังงานเปิดตัว
สำหรับผู้บริโภคในไทย ราคาที่สูงตั้งแต่ 29,900–43,900 บาท ยังคงสะท้อนกลยุทธ์พรีเมียมของ Apple ที่มุ่งเน้น “คุณค่าแบรนด์” มากกว่าการแข่งขันด้านราคา
นักลงทุนควรจับตา ไตรมาสถัดไปว่าตลาดจะตอบรับยอดขายจริงของ iPhone รุ่นใหม่อย่างไร และ Apple จะสามารถนำเสนอ “จุดขายใหม่” ที่มากกว่าฮาร์ดแวร์ได้หรือไม่ โดยเฉพาะด้าน AI และบริการดิจิทัล ที่กำลังเป็นเทรนด์หลักของโลก
