ราคาทองคำพุ่งรับแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ

ราคาทองคำพุ่งรับแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ – ตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ราคาทองคำ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2025 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศนโยบายด้านภาษีชุดใหม่ที่อาจกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงยังคงหนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย”
ราคาทองคำขยับขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน
ราคาทองคำในตลาดโลกเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้าวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจาก:
– ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
– ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ
– ความเชื่อมั่นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 15:30 น. ตามเวลาไทย
– ราคาทองคำสปอต (Spot Gold) ปรับขึ้น 0.1% อยู่ที่ $3,373.80 ต่อออนซ์
– สัญญาทองคำล่วงหน้าสำหรับส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ $3,447.90 ต่อออนซ์
ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ – กระทบห่วงโซ่อุปทานโลก
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จากบางประเทศ หากประเทศเหล่านั้นไม่ลงทุนในสายการผลิตภายในสหรัฐฯ โดยตรง นโยบายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายเพื่อผลักดัน อุตสาหกรรมชิปในประเทศ แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดโลก เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ทั้งเทคโนโลยี ยานยนต์ และพลังงาน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่ง เพิ่มภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็น 50% โดยอ้างถึงการที่อินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แม้จะถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร การเคลื่อนไหวนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ภาวะเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้น อีกครั้ง และ ความขัดแย้งทางการค้า อาจขยายวงกว้าง – ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมความต้องการทองคำ
ความหวังการลดดอกเบี้ยจากเฟดยังหนุนราคาทอง
ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อว่า Fed จะ ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 2025
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด:
– ภาคบริการสหรัฐฯ ชะลอตัวในเดือนกรกฎาคม
– ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์
– จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME ชี้ว่า ตลาดให้น้ำหนักถึง 95% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน
การลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลง เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากตลาดโลหะอื่น
ไม่ใช่แค่ทองคำเท่านั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โลหะมีค่าตัวอื่น ๆ ในตลาดโลกก็เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน:
– แพลทินัมล่วงหน้า: เพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ $1,353.70 ต่อออนซ์
– เงินล่วงหน้า (Silver Futures): เพิ่มขึ้น 0.9% อยู่ที่ $38.250 ต่อออนซ์
ในตลาดอุตสาหกรรม:
ทองแดงล่วงหน้าลอนดอน: ขยับขึ้น 0.3% ที่ $9,719.20 ต่อตัน
ทองแดงล่วงหน้าสหรัฐฯ: ขยับขึ้น 0.5% ที่ $4.4328 ต่อปอนด์
นักลงทุนยังติดตามข้อมูลการค้าของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการส่งออกปรับตัวดีขึ้นท่ามกลางสัญญาณว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มคลี่คลาย
สรุปแนวโน้มทองคำในระยะสั้น
ในช่วงที่เหลือของไตรมาส 3/2025 ปัจจัยหลักที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำ ได้แก่:
1. ทิศทางนโยบายการเงินของ Fed และธนาคารกลางหลักอื่น ๆ
2. การปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และการตอบโต้จากคู่ค้ารายใหญ่
3. ข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) และการว่างงานของสหรัฐฯ
4. ปฏิกิริยาจากตลาดตราสารหนี้และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
1. Bureau of Labor Statistics – www.bls.gov
2. CME FedWatch Tool – www.cmegroup.com
3. GoldPrice.org – www.goldprice.org
4. World Gold Council – www.gold.org
5. รายงานข่าวจาก TradingView และ Investing.com (สิงหาคม 2025)