แรงงานสหรัฐฯ น่าห่วง! ผู้ขอว่างงานสูงสุดในรอบ 4 ปี

สัญญาณอ่อนแรงในตลาดแรงงานสหรัฐฯ? ผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงสุดตั้งแต่ปี 2021

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้งในปี 2025 หลังจากรายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) และผู้ขอรับต่อเนื่อง (Continuing Claims) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นเดือนสิงหาคม การปรับลดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก่อนหน้า และความไม่แน่นอนทางการเมืองภายใน ทำให้ทั้งนักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายเริ่มจับตามองแนวโน้มการจ้างงานในอนาคตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเหนือคาด

ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 สิงหาคม 2025 กระทรวงแรงงานรายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 226,000 ราย
– เพิ่มขึ้นจาก 219,000 รายในสัปดาห์ก่อน
– สูงกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 221,000 ราย
ในขณะเดียวกัน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ ซึ่งใช้เพื่อกรองความผันผวนของข้อมูล อยู่ที่ 220,750 ราย ลดลงเล็กน้อย 500 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี

ผู้ขอรับสิทธิต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2021

จำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง (Continuing Claims) ซึ่งสะท้อนถึงผู้ที่ยังคงอยู่ในระบบและยังไม่ได้หางานใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 1.974 ล้านราย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 กรกฎาคม
– เพิ่มขึ้น 38,000 รายจากสัปดาห์ก่อน
– สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.950 ล้านราย
– ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2021

ปัญหาความน่าเชื่อถือของข้อมูลจ้างงาน

รายงานนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปลดผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าข้อมูลการจ้างงานถูกรายงานอย่าง “บิดเบือน” โดยไม่มีหลักฐานแน่ชัด สิ่งที่น่ากังวลคือการปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนก่อนหน้า:
– มิถุนายน 2025: จาก 147,000 → 14,000 ตำแหน่ง
– พฤษภาคม 2025: จาก 144,000 → 19,000 ตำแหน่ง
รวมสองเดือนถูกปรับลดลงกว่า 258,000 ตำแหน่ง จากการประเมินใหม่โดยอิงจากข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับจากธุรกิจและหน่วยงานของรัฐ

แนวโน้มดอกเบี้ย: Fed อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน?

การชะลอตัวของการจ้างงานทำให้ตลาดเริ่มประเมินว่า Fed อาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมที่จะถึงในเดือนกันยายน
ในเชิงเศรษฐศาสตร์ การลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นตลาดแรงงานในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น
– ความเชื่อมั่นผู้บริโภค
– อัตราเงินเฟ้อ (CPI)
– ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ

วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์: สิ่งที่นักลงทุนควรระวัง

หากแนวโน้มการว่างงานยังคงสูงขึ้น นักลงทุนควร:
– ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนอย่าง NFP และ CPI อย่างใกล้ชิด
– ปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หาก Fed ลดดอกเบี้ย
– พิจารณาการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ หรือพันธบัตรรัฐบาล
– ติดตามสัญญาณจากตลาดแรงงานเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบต่อ USD และตลาดหุ้น

ที่มา:
1. U.S. Department of Labor 
2. Bureau of Labor Statistics (BLS) 
3. CNBC – “Jobless claims rise, continuing claims hit highest since 2021” (สิงหาคม 2025)
4. Reuters – “Trump ousts BLS chief over jobs data dispute”
5. TradingEconomics – United States Unemployment Rate Data (2025)

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

fintapx
Logo
Compare items
  • Total (0)
Compare
0
Shopping cart