US trade talks remain unresolved ahead of the July 9 tariff deadline.
ข้อตกลงการค้าสหรัฐยังไม่ลงตัว ก่อนเส้นตายภาษีตอบโต้ 9 กรกฎาคม
สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากที่สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมนำมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กลับมาใช้อีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าหลักหลายแห่งยังเร่งเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคส่งออกและเศรษฐกิจในวงกว้าง แม้มีความคืบหน้าในบางกรณี แต่รายงานล่าสุดจากสำนักข่าว AFP ระบุว่า สหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุปการเจรจากับหลายประเทศ ก่อนที่มาตรการภาษีจะกลับมามีผลอีกครั้ง
สหภาพยุโรปพร้อมตกลง แต่ยังรอความชัดเจนจากสหรัฐ
สหภาพยุโรป (EU) ถือเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่แสดงท่าทีเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปนำโดยเออร์ซูลา วอน เดอ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการระบุว่า EU “พร้อมสำหรับข้อตกลง” และตั้งเป้าที่จะ “บรรลุข้อตกลงในหลักการ” ก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถตกลงกันได้ สินค้าของ EU อาจต้องเผชิญกับการขึ้นภาษีนำเข้าจากเดิม 10% เป็น 20% ซึ่งทรัมป์เคยระบุว่าหากจำเป็นอาจขึ้นได้ถึง 50% ทำให้ภาคธุรกิจในยุโรปจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
เวียดนามมีข้อตกลงเบื้องต้น แต่รายละเอียดไม่ชัดเจน
การเจรจาระหว่างสหรัฐกับเวียดนามมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้แถลงข้อตกลงทางการค้า ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อลดความเสี่ยงที่เวียดนามจะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าระดับ 46% ที่ทรัมป์เคยประกาศไว้ข้อตกลงเบื้องต้นนี้กำหนดให้สินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐอยู่ภายใต้ภาษีขั้นต่ำ 20% ขณะที่สินค้าจากประเทศที่สามซึ่งใช้เวียดนามเป็นจุดผ่าน จะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 40% เพื่อควบคุมการ “ส่งผ่าน” ของสินค้าจีน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าสินค้าที่ใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศจะถูกพิจารณาอย่างไร และนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเตือนว่า จีนอาจใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับเวียดนามหากเห็นว่าเป็นการสนับสนุนแนวนโยบายของสหรัฐ
ญี่ปุ่นยังไม่มีข้อยุติ ‘ข้าว’ และ ‘รถยนต์’ เป็นจุดอ่อนไหว
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ และมีการลงทุนโดยตรงในอเมริกาในหลายภาคส่วน
แต่ข้อเรียกร้องของรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับการเปิดตลาดข้าวและรถยนต์ยังคงเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้
นายเรียวเซอิ อาคาซาวา หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่น ได้เดินทางไปยังวอชิงตันหลายครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แต่ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าข้อตกลงจะเกิดขึ้นได้ก่อนเส้นตาย ทรัมป์กล่าวว่า ญี่ปุ่นยังไม่เปิดตลาดเพียงพอ และเตือนว่า หากไม่มีความคืบหน้า สหรัฐอาจใช้มาตรการภาษีสูงถึง 30% หรือ 35% กับสินค้าญี่ปุ่นบางรายการ โดยเฉพาะในภาคเกษตรและยานยนต์
สถานะการค้าระหว่างประเทศอยู่ในภาวะไม่แน่นอน
การที่สหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับหลายประเทศได้ทันก่อนเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก และความเชื่อมั่นของนักลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม นักวิเคราะห์เตือนว่า หากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐมีผลบังคับใช้อีกครั้ง อาจจุดชนวนความตึงเครียดด้านการค้าระลอกใหม่ ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อคู่ค้ารายสำคัญของสหรัฐ แต่ยังอาจสะเทือนถึงเศรษฐกิจโลกโดยรวมในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
