ภาพรวมราคา Bitcoin ล่าสุด
ราคา Bitcoin วันนี้อยู่ที่ราว 108,615 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 107,274 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งนับเป็นจุดต่ำสุดในรอบสองเดือนนับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนที่สูงในตลาดคริปโต นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการร่วงลงดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (Non-Farm Payrolls) ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถส่งผลโดยตรงต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด
ปัจจัยที่กดดันราคา Bitcoin
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงครั้งนี้มีหลายประการโดยหนึ่งในนั้นคือการเคลื่อนไหวของกระเป๋าเงินวาฬที่ไม่เคลื่อนไหวมานานแต่ได้โอนเหรียญจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาดเพื่อขายทำกำไร ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อราคาและทำให้เกิดการ Liquidation ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลายพันล้านดอลลาร์ภายในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินใน ETF โดยเฉพาะ Bitcoin Spot ETF ในสหรัฐฯ ที่เผชิญกับแรงไหลออกต่อเนื่อง ขณะที่ Ethereum ETF กลับมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่งในเดือนสิงหาคม สถานการณ์ดังกล่าวตอกย้ำว่ากระแสเงินลงทุนในตลาดคริปโตยังคงหมุนเวียนอย่างไม่สมดุล
ความเชื่อมโยงกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
ความผันผวนของ Bitcoin ไม่ได้เกิดจากปัจจัยในตลาดคริปโตเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ว่ามีโอกาสกว่า 89% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมกลางเดือนกันยายน ซึ่งคาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจาก CME FedWatch Tool การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับสัญญาณจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ที่ระบุว่าผู้กำหนดนโยบายพร้อมที่จะผ่อนคลายหากเงินเฟ้อชะลอตัวและตลาดแรงงานอ่อนแรงลง ดังนั้นรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะออกมาในสัปดาห์นี้จึงมีความสำคัญต่อทิศทางของทั้งตลาดการเงินและตลาดคริปโต
กันยายนแดงและปัจจัยเชิงฤดูกาล
ในเชิงสถิติ เดือนกันยายนมักเป็นช่วงที่ตลาดการเงินรวมถึงตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดัน โดยในอดีตมักเกิดการปรับฐานเนื่องจากความผันผวนของตลาดดั้งเดิมที่ส่งผ่านมายังสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “กันยายนแดง” และสถานการณ์ในปีนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ต่างกันมากนัก เนื่องจากทั้งแรงขายจากวาฬและการขาดแรงสนับสนุนจากสถาบันทำให้ราคาของ Bitcoin อ่อนตัวลงต่อเนื่อง
การวิเคราะห์เชิงเทคนิค
จากมุมมองทางเทคนิค ราคา Bitcoin ที่ร่วงลงต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์ถือเป็นสัญญาณลบระยะสั้น และแนวรับสำคัญที่ตลาดจับตามองคือบริเวณ 107,000 ดอลลาร์ หากระดับนี้ไม่สามารถรักษาไว้ได้มีโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบบริเวณ 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน อย่างไรก็ตาม หากสามารถฟื้นตัวกลับเหนือ 110,000 ดอลลาร์ได้ในเร็ว ๆ นี้ อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดและดึงดูดแรงซื้อกลับเข้ามา
ผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของวาฬ
ข้อมูลจากสื่อหลายแห่งระบุว่าการร่วงลงครั้งนี้สัมพันธ์กับการขายทำกำไรของวาฬ Bitcoin รายใหญ่ที่เคลื่อนย้ายเหรียญจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาดภายในเวลาอันสั้น ซึ่งการเคลื่อนไหวลักษณะนี้มักส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุนรายย่อย ส่งผลให้เกิดการขายต่อเนื่องและขยายวงจรการปรับฐานของราคา นักลงทุนที่ถือสัญญา Futures และ Leverage สูงจำนวนมากต้องเผชิญกับการถูกบังคับปิดสถานะ ทำให้มูลค่า Liquidation เพิ่มขึ้นกว่า 900 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ความเห็นจากนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักให้ความเห็นตรงกันว่าแม้ Bitcoin จะเผชิญแรงกดดันในระยะสั้น แต่แนวโน้มระยะกลางถึงยาวยังคงมีปัจจัยบวกสนับสนุน โดยเฉพาะความต้องการสะสมจากนักลงทุนสถาบัน การเข้าสู่ตลาดของกองทุน ETF ในประเทศต่าง ๆ และการมองว่า Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นตลาดยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานและการตัดสินใจของเฟด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่ติดตามราคา Bitcoin วันนี้ คำแนะนำหลักคือการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด การตั้ง Stop-Loss และการกำหนด Position Size ที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดที่มีความผันผวนสูง นอกจากนี้ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารจาก Fed ดัชนีเงินเฟ้อ และข้อมูลการจ้างงานอย่างใกล้ชิด เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคา Bitcoin และตลาดคริปโตทั้งหมด
สรุปแนวโน้ม
ราคา Bitcoin วันนี้ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนที่ 107,000 ดอลลาร์ก่อนฟื้นตัวเล็กน้อยสะท้อนถึงความเปราะบางของตลาดต่อแรงขายและปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค การเคลื่อนไหวของวาฬและ ETF ทำให้แรงกดดันทวีคูณ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอคอยรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ เพื่อยืนยันทิศทางการเงินของเฟด แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะมีความเสี่ยงสูง แต่ในระยะยาว Bitcoin ยังคงได้รับการจับตาในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำและ “ราชาแห่งตลาดคริปโต”
รายงานฉบับใหม่จาก AOL Finance ระบุว่า นักวิเคราะห์วอลสตรีทจำนวนมากคาดว่า ราคาทองคำ จะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2026 โดยบางสำนักให้เป้าหมายการเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20% ปัจจัยคาดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากราคาทองคำตลอดปี 2025 ปรับตัวแข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์จากสถาบันการเงินรายใหญ่ที่ยังคงมีต่อเนื่องทองคำถือเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย…
ตุลาคม 2025 – แพลตฟอร์มเทรดระดับโลก Dupoin ฉลองครบรอบปีที่ห้าในการดำเนินงาน พร้อมการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ความก้าวหน้าด้านการกำกับดูแล และการพัฒนานวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของผู้ใช้งาน ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 ปัจจุบัน Dupoin ให้บริการผู้ใช้งานมากกว่า 500,000…
Dupoin รายงานการเติบโตทั่วโลก การขยายด้านการกำกับดูแล และข้อมูลเชิงลึกด้านประสบการณ์ผู้ใช้งานวันที่ 24 กันยายน 2025 – Dupoin แพลตฟอร์มการเทรดระดับโลก เปิดเผยพัฒนาการล่าสุดในการดำเนินงานระหว่างประเทศ โดยระบุถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของฐานผู้ใช้งาน การขยายการครอบคลุมด้านการกำกับดูแล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบ และข้อมูลด้านประสบการณ์การใช้งานที่ได้รับจากลูกค้าการดำเนินงานระดับโลกและผลิตภัณฑ์…
ในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม 2025 ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 100% และจีนตอบโต้ด้วยการเพิ่มค่าธรรมเนียมท่าเรือ ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกเข้าสู่ภาวะผันผวนทันที นักลงทุนเร่งโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและหันกลับมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตรรัฐบาลราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ราคาทองคำในตลาดสปอตพุ่งแตะระดับ 4,078.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์…
ดอลลาร์สหรัฐกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2025 โดยแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดของปี จากแรงหนุนของกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ข้อมูลจาก Bank of America ชี้ว่าความต้องการลงทุนในดอลลาร์อยู่ในระดับสูงสุดของปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งปัจจัยหลักที่หนุนดอลลาร์แข็งค่านโยบายการเงินที่แตกต่างกันทั่วโลก – ขณะที่หลายประเทศเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐยังคงคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแรง ส่งผลให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์สกุลดอลลาร์โดดเด่นกว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ยืดหยุ่น…
ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บ ภาษีนำเข้าจากจีน 100% สำหรับสินค้าประเภทเทคโนโลยี พร้อมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายรุนแรงในตลาดคริปโต โดย บิตคอยน์ (Bitcoin) ร่วงกว่า 8.4% แตะระดับ…