
ทรัมป์ผลักดันกฎหมายภาษีใหม่ปี 2025 เริ่มต้นจาก “คำบ่นของพนักงานเสิร์ฟ”
ในปี 2025 สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านนโยบายภาษีอีกครั้ง ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างมากคือ การยกเว้นภาษีสำหรับรายได้จากเงินทิป ซึ่งเป็นผลจากคำบ่นเล็ก ๆ ของพนักงานเสิร์ฟในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ลาสเวกัส ขณะหาเสียงเลือกตั้งในปี 2024 ทรัมป์เล่าว่า พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งได้บ่นกับเขาว่าเธอต้องเสียภาษีจากเงินทิปที่ได้รับ แม้จะมีรายได้น้อย ซึ่งทำให้เขาตระหนักถึงความไม่เป็นธรรมของระบบภาษี และตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของการรณรงค์หาเสียง แม้แนวคิดจะเริ่มต้นจากบทสนทนาสั้น ๆ แต่มันกลับกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากแรงงานภาคบริการ และช่วยให้ทรัมป์ชนะคะแนนเสียงในรัฐเนวาดา ซึ่งปกติแล้วเป็นพื้นที่ที่พรรครีพับลิกันไม่ค่อยชนะ ในเดือนกรกฎาคม 2025 สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมาย ยกเว้นภาษีรายได้จากเงินทิป (Tip Income Tax Exemption) เป็นระยะเวลาหลายปี โดยพรรครีพับลิกันให้การสนับสนุนอย่างเป็นเอกภาพ
ถือเป็นการต่อยอดจากการปฏิรูประบบภาษีในปี 2017
ทรัมป์กล่าวในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า
“ตำนานได้ถือกำเนิดขึ้น เราชนะเนวาดา และผมอยากขอบคุณพนักงานเสิร์ฟสาวคนนั้นมากๆ”
วิเคราะห์นโยบาย: การเมืองผสมประชานิยม นโยบายนี้ถือเป็นตัวอย่างของการนำ ประชานิยมทางภาษี (Tax Populism) มาผสานกับแนวทางเศรษฐศาสตร์แบบอนุรักษ์นิยม โดยไม่ได้เริ่มจากองค์กรคลังสมองหรือนักวิชาการ แต่มาจากประสบการณ์ภาคสนามและเสียงของประชาชนจริง ๆ ซึ่งตรงกับสไตล์ของทรัมป์ในหลายโครงการที่ผ่านมา การยกเว้นภาษีเงินทิปจะส่งผลโดยตรงต่อแรงงานบริการ เช่น พนักงานร้านอาหาร โรงแรม และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแรงงานระดับรากหญ้าที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในหลายรัฐ โดยเฉพาะรัฐที่มีประชากรผสมระหว่างชนชั้นกลางและแรงงานย้ายถิ่น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า นโยบายนี้อาจทำให้เกิดช่องโหว่ในการจัดเก็บภาษี และเพิ่มภาระการตรวจสอบให้กับหน่วยงานรัฐในระยะยาว