ราคาน้ำมันดิบโลกเผชิญแรงเทขายต่อเนื่อง หลังนักลงทุนประเมินปัจจัยลบจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนที่ชะลอตัว ประกอบกับความกังวลเรื่อง อุปทานน้ำมันล้นตลาด ในช่วงครึ่งหลังของปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ปิดตลาดสัปดาห์สิ้นเดือนกรกฎาคม) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 1.32% ปิดที่ 65.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปิดตลาดที่ 68.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.07%
ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบโดยตรงจากตัวเลข ยอดสั่งซื้อสินค้าทุนของสหรัฐฯ ที่ลดลงเกินคาด ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจภาคการผลิตที่ยังเปราะบาง ขณะเดียวกัน จีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ
ด้านฝั่งอุปทาน ตลาดยังจับตาเป็นพิเศษต่อความเป็นไปได้ที่ รัฐบาลสหรัฐฯ อาจผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลา ซึ่งจะเปิดทางให้บริษัท Chevron กลับมาทำการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน ในอีกด้านหนึ่ง อิหร่านก็ส่งสัญญาณพร้อมกลับเข้าสู่การเจรจานิวเคลียร์อีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกข้อจำกัดด้านการส่งออกน้ำมัน และเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาดโลก
ในสัปดาห์หน้า นักลงทุนต้องจับตาการประชุมของ กลุ่ม OPEC+ ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตอีกครั้ง หลังราคาน้ำมันเริ่มอ่อนตัวลงในช่วง high-season ของฤดูร้อน ท่ามกลางการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่
ราคาน้ำมันดิบในขณะนี้สะท้อนแรงกดดันจาก ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ผสมกับ ความไม่แน่นอนด้านนโยบายพลังงาน และความเป็นไปได้ที่ อุปทานจะเพิ่มขึ้นเกินดีมานด์ ในระยะสั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารใกล้ชิด ทั้งการเจรจาระหว่างประเทศผู้ผลิต, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ–จีน, รวมถึงท่าทีล่าสุดของ OPEC+ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง ราคาน้ำมันดิบโลก ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อยีลด์พุ่ง และสภาพคล่องโลกตึงตัวภาพรวมสถานการณ์ตลาดดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ ตลาดฟอเร็กซ์, ตลาดตราสารหนี้, ทองคำ, น้ำมัน และ ตลาดหุ้นโลก ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ขยับทะลุแนวต้านสำคัญ แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่หันกลับมาถือครองสินทรัพย์สหรัฐ…
เฟดส่งสัญญาณความกดดันทางการเงินสูง กระทบการเคลื่อนไหวตลาดวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงิน หลังออกมายอมรับว่าสภาพแวดล้อมทางการเงินและระบบธนาคารในปัจจุบัน มีความเสี่ยงสูงกว่าก่อนวิกฤติการเงินโลกปี 2007 การประเมินครั้งนี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์เชิงลึกที่เฟดจัดทำขึ้น โดยใช้เกณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า Economic Capital ซึ่งสะท้อนว่ามาตรการปฏิรูปหลังวิกฤติการเงินโลก (Post-GFC Reforms)…
โปรโมชั่นฝาก+เทรด รับ Gift Voucher 1. ฝาก $10,000 + เทรด 5 ล็อต ---> รับวอเชอร์ 5,000 บาท2.…
โปรโมชั่นฝากปุ๊บ รับปั๊บ! เพียงแค่ฝากเงินเข้าบัญชีเทรด รับของขวัญสุดพิเศษไปเลย!1. ฝาก $3,000 - รับสมุดหนัง + ร่มพับ + Gift Set + กระเป๋าเล็ก…
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2025 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งถือเป็นการลดครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2024 การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดคริปโตกลับไม่ได้พุ่งแรงตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ตลาดยังคงขาดแรงขับเคลื่อนและนักลงทุนยังเลือกที่จะรอความชัดเจนมากขึ้นผลกระทบทางเศรษฐกิจเฟดส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายแบบ “ประชุมต่อประชุม”…
ราคาน้ำมันวันนี้ปรับตัวขึ้น จากอุปทานรัสเซียและการประชุมเฟด ราคาน้ำมันวันนี้ ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงเอเชียวันจันทร์ ต่อเนื่องจากการปรับขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของ อุปทานน้ำมันรัสเซีย หลังจากโดรนยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของมอสโกจับตาประชุมเฟดสัปดาห์นี้จุดสนใจสำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย การประชุมเฟดเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ ความต้องการเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว-…