ราคาทองคำร่วงรับแรงกดดันภาษี – จับตา CPI สหรัฐฯ ชี้ทิศทางเฟด

ทองคำปรับลดหลังพุ่งทำสถิติ นักลงทุนลุ้นนโยบายภาษีและดอกเบี้ยเฟด
ราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงเมื่อวันจันทร์ (11 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอความชัดเจนจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับภาษีนำเข้าแท่งทองคำ รวมถึงการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ราคาทองคำสปอตลดลง 0.7% อยู่ที่ 3,376.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมปรับลด 1.5% อยู่ที่ 3,438.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 12:51 น. ตามเวลาประเทศไทย
ความไม่แน่นอนด้านภาษีกดดันตลาด
สัปดาห์ก่อน สัญญาทองคำล่วงหน้าพุ่งทำสถิติสูงสุดกว่า 3,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ มีคำตัดสินให้แท่งทองคำมาตรฐานขนาด 1 กิโลกรัมและ 100 ออนซ์ ต้องเสียภาษีนำเข้า ส่งผลให้โรงกลั่นทองคำบางแห่งในสวิตเซอร์แลนด์หยุดส่งออกไปยังสหรัฐฯ
ภาคอุตสาหกรรมเตือนว่า มาตรการนี้อาจกระทบการค้าทองคำทั่วโลก โดยเฉพาะจากสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกลั่นสำคัญ ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่าจะออกคำสั่งบริหารเพื่อชี้แจงนโยบายภาษีดังกล่าว ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดของตลาดได้บางส่วน
จับตา CPI สหรัฐฯ ชี้ทิศทางเฟด
ตลาดกำลังรอการประกาศ CPI เดือนกรกฎาคม ในวันอังคาร ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 0.2% จากเดือนก่อน ตามด้วยข้อมูล PPI ในช่วงปลายสัปดาห์ เทรดเดอร์มองว่าข้อมูลเงินเฟ้อจะเป็นตัวชี้ชัดถึงโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย โดยปัจจุบันตลาดให้ความน่าจะเป็นเกือบ 89% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน หลังข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอเมื่อต้นเดือนเพิ่มแรงหนุนต่อการคาดการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ตลาดยังจับตากำหนดสิ้นสุดการพักการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีนในวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งแม้นักลงทุนหลายฝ่ายมองว่าจะมีการขยายเวลา แต่ผลลัพธ์ยังไม่แน่นอน
ภาพรวมโลหะมีค่าและอุตสาหกรรม
– แพลทินัมล่วงหน้า ลดลง 0.6% อยู่ที่ 1,331.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์
– เงินล่วงหน้า ลดลง 0.7% อยู่ที่ 38.275 ดอลลาร์ต่อออนซ์
– ทองแดงล่วงหน้าตลาดลอนดอน (LME) เพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 9,789.25 ดอลลาร์ต่อตัน
– ทองแดงล่วงหน้าสหรัฐฯ ทรงตัวที่ 4.47 ดอลลาร์ต่อปอนด์
อ้างอิง: Reuters, Bloomberg, Kitco, Investing.com